รายละเอียด

อำนาจศาลปกครองในคดีที่ดิน

ประเภทคดีที่ศาลปกครองมีอำนาจ

• คดีฟ้องการกระทำทางปกครองของเจ้าหน้าที่ในการออกโฉนด
• คดีฟ้องการเพิกถอนโฉนดที่ดิน
• คดีฟ้องการปฏิเสธออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์ที่ดิน
• คดีฟ้องการแก้ไขโฉนดที่ดิน
• คดีเกี่ยวกับการกำหนดเขตที่ดินสาธารณะ

คดีที่ศาลปกครองไม่มีอำนาจ

• ข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินระหว่างเอกชน (ต้องไปศาลยุติธรรม)
• คดีอาญาเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารที่ดิน

เงื่อนไขและข้อกำหนดในการฟ้องคดี

อายุความ

• 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงการกระทำทางปกครอง
• กรณีพิเศษ: หากเป็นการกระทำที่ต่อเนื่อง จะนับจากวันที่การกระทำสิ้นสุด
• หากไม่ทราบถึงการกระทำ ให้นับจากวันที่ทราบ

การร้องทุกข์ต่อหน่วยงาน (ไม่บังคับแต่แนะนำ)

• ควรร้องทุกข์ต่อหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน
• ช่วยสร้างหลักฐานว่าได้พยายามแก้ไขปัญหาแล้ว

รายละเอียดการยื่นคำฟ้อง

สาระสำคัญในคำฟ้อง

1. ข้อเท็จจริง
   • ประวัติการได้มาซึ่งที่ดิน
   • การดำเนินการของเจ้าหน้าที่
   • ความเสียหายที่เกิดขึ้น
2. ข้อกฎหมาย
   • กฎหมายที่เจ้าหน้าที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม
   • หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการออกโฉนด
3. คำขอ
   • ขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครอง
   • ขอให้สั่งเจ้าหน้าที่ออกโฉนดใหม่
   • ขอค่าเสียหาย (ถ้ามี)

เอกสารหลักฐานที่จำเป็น

• สำเนาโฉนดที่ดิน/เอกสารสิทธิ์เดิม
• หนังสือสำคัญการถือครอง
• แผนที่และผังแปลงที่ดิน
• หลักฐานการชำระภาษี
• หลักฐานการครอบครอง
• คำสั่งทางปกครองที่โต้แย้ง
• รายงานการสำรวจ (ถ้ามี)

ประเภทคดีที่พบบ่อยและแนวทางการแก้ไข

1. การเพิกถอนโฉนดโดยไม่ชอบธรรม

• สาเหตุ: เจ้าหน้าที่อ้างว่าโฉนดออกผิดพลาด หรือที่ดินเป็นของรัฐ
• การต่อสู้: พิสูจน์ว่าการออกโฉนดเดิมถูกต้อง และตนมีสิทธิ์ถูกต้อง
• หลักฐานสำคัญ: เอกสารการได้มาซึ่งที่ดิน, การครอบครองโดยสุจริต

2. การปฏิเสธออกโฉนดแก่ผู้มีสิทธิ์

• สาเหตุ: เจ้าหน้าที่ปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลสมควร
• การต่อสู้: พิสูจน์ว่าตนมีสิทธิ์และเป็นไปตามกฎหมาย
• หลักฐานสำคัญ: หลักฐานการครอบครอง, การชำระภาษี, การปฏิบัติตามระเบียบ

3. การออกโฉนดทับซ้อน

• สาเหตุ: เจ้าหน้าที่ออกโฉนดให้คนอื่นในพื้นที่เดียวกัน
• การต่อสู้: พิสูจน์สิทธิ์เดิมและการครอบครองก่อน
• หลักฐานสำคัญ: แผนที่เปรียบเทียบ, หลักฐานการครอบครองก่อนหลัง

กระบวนการพิจารณาคดี

ขั้นตอนการพิจารณา

1. การยื่นคำฟ้อง - ศาลตรวจสอบเงื่อนไข
2. การแจ้งคำฟ้อง - จำเลยมีสิทธิ์ยื่นคำให้การ
3. การไต่สวน - ศาลอาจสั่งให้มีการสำรวจหน้าที่ดิน
4. การพิจารณา - ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
5. การพิพากษา - ออกคำพิพากษา

การสำรวจหน้าที่ดิน

• ศาลอาจสั่งให้คณะกรรมการสำรวจ
• เจ้าหน้าที่กรมที่ดินร่วมสำรวจ
• คู่ความทุกฝ่ายมีสิทธิ์เข้าร่วม

ค่าใช้จ่ายและระยะเวลา

ค่าธรรมเนียมศาล

• คำฟ้อง: 2,000-5,000 บาท (ขึ้นอยู่กับทุนทรพย์)
• ค่าสำรวจ: 10,000-50,000 บาท (ถ้ามีการสำรวจ)
• ค่าทนายความ: แล้วแต่ตกลง

ระยะเวลาการพิจารณา

• คดีทั่วไป: 1-3 ปี
• คดีที่ต้องสำรวจ: 2-5 ปี
• คดีซับซ้อน: อาจนานกว่า 5 ปี

คำแนะนำสำหรับผู้ที่จะฟ้องคดี

การเตรียมตัว

• รวบรวมเอกสารให้ครบถ้วน
• ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง
• ปรึกษาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญ
• พิจารณาความคุ้มค่าของการฟ้องคดี

ข้อควรระวัง

• อายุความที่จำกัด (90 วัน)
• ค่าใช้จ่ายที่อาจสูง
• ระยะเวลาการพิจารณาที่ยาวนาน
• ความไม่แน่นอนของผลคดี

รายละเอียด

หลักการฟ้องศาลปกครองเรื่องการริบเงินประกันซองและค่าปรับมีดังนี้:

เงื่อนไขการฟ้อง

1. คุณสมบัติผู้ฟ้อง

• ต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งการริบเงินประกันซอง
• มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากการกระทำของหน่วยงานราชการ

2. เงื่อนไขเวลา

• ต้องฟ้องภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงคำสั่งการริบเงิน
• หากเป็นการอุทธรณ์ต่อหน่วยงานเดิมแล้ว ให้นับจากวันที่ได้รับผลการอุทธรณ์

เหตุผลที่ใช้ฟ้อง

การริบเงินประกันซองผิดกฎหมาย

• หน่วยงานไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการริบเงิน
• การดำเนินการไม่เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง
• ไม่ได้ให้สิทธิในการแก้ตัวหรือชี้แจง

การกำหนดค่าปรับไม่เป็นธรรม

• อัตราค่าปรับเกินสมควรเมื่อเทียบกับความเสียหาย
• การคำนวณค่าปรับไม่ถูกต้องตามสัญญา

ขาดกระบวนการที่เป็นธรรม

• ไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าอย่างเหมาะสม
• ไม่ได้รับสิทธิในการโต้แย้งหรือพิสูจน์ตนเอง

วิธีการดำเนินคดี

1. การยื่นคำร้อง

• ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองที่มีเขตอำนาจ
• แนบเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

2. การพิสูจน์

• พิสูจน์ว่าการริบเงินขัดต่อกฎหมายหรือไม่เป็นธรรม
• แสดงหลักฐานความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง

3. การขอเยียวยา

• ขอให้คืนเงินประกันซองและ/หรือลดค่าปรับ
• ขอค่าเสียหายและค่าทนายความ (ถ้ามี)

ข้อควรระวัง

• ศึกษาสัญญาและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ละเอียด
• รวบรวมหลักฐานและเอกสารให้ครบถ้วน
• ปรึกษาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญในคดีปกครอง
• ติดตามกำหนดเวลาการฟ้องให้เข้มงวด

การฟ้องศาลปกครองต้องมีเหตุผลสมควรและหลักฐานที่เพียงพอ เพื่อให้มีโอกาสชนะคดีและได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม

รายละเอียด

• ขอเครดิตฟรีหน่อยครับสมัครปุ๊บรับปั๊บไม่ต้องฝากรับปรึกษา ฟ้องคดีปกครอง รวมถึงให้การต่อสู้คดีปกครองทุกประเภท เกี่ยวกับการกระทำละเมิดทางปกครอง, คำสั่งทางปกครอง,การพิจารณาทางปกครองอันมิชอบด้วยกฎหมาย

• กรณีถูกเลื่อน ลด ปลด ย้าย โดยไม่เป็นธรรม

• กรณีถูกสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงาน

• กรณีถูกริบเงินประกันซอง

• กรณีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง

• กรณีถูกเพิกถอนสัญญาว่าจ้างโดยไม่เป็นธรรม

• กรณีอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา

• กรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครอง

• กรณีอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง

• กรณีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

  โทรปรึกษา ทนายทวีศักดิ์ โทร.086 892 2417 ไม่ติดแอดLINE ID 086 892 2417 ได้เลย ครับ
• คุณวุฒิ 
• การศึกษาบัณฑิต กศ.บ. (เกียรตินิยมอันดับ 2 )
• นิตศาสตร์ บัณฑิต นบ.
• นิติศาสตร์ มหาบัณฑิต นม.
• นิตศษสตร์ ดุษฎีบัณฑิต นด.(เทอมสุดท้าย)
• หลักสูตร กศ.ป.รุ่น 15

รายละเอียด

หลักการทำคดีเวนคืนในกฎหมายไทยมีองค์ประกอบสำคัญดังนี้:

ความหมายของคดีเวนคืน

คดีเวนคืนคือการที่รัฐยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยการกระทำความผิด หรือทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดกลับคืนมา โดยไม่จำเป็นต้องมีการฟ้องร้องทางอาญาหรือได้รับคำพิพากษาลงโทษผู้กระทำผิดเสียก่อน

หลักการสำคัญ

1. การดำเนินคดีแยกต่างหาก

• คดีเวนคืนเป็นคดีแพ่งที่แยกจากคดีอาญา

• สามารถฟ้องได้แม้ยังไม่มีการฟ้องคดีอาญา หรือคดีอาญายังไม่ถึงที่สุด

2. ภาระการพิสูจน์

• รัฐต้องพิสูจน์ว่าทรัพย์สินนั้นได้มาจากการกระทำผิด

• ใช้หลักฐาน "ตามสมควรแก่เหตุ" (balance of probabilities) ไม่ใช่ "เหนือข้อสงสัย"

3. ทรัพย์สินที่อาจถูกเวนคืน

• ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด

• ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด

• ทรัพย์สินที่แปลงสภาพมาจากทรัพย์สินดังกล่าว

• ผลประโยชน์ที่เกิดจากทรัพย์สินเหล่านั้น

ขั้นตอนการดำเนินการ

1. การสืบสวนและรวบรวมหลักฐาน

• หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนข้อเท็จจริง

• รวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับแหล่งที่มาของทรัพย์สิน

2. การยื่นคำร้อง

• อัยการฟ้องต่อศาลแพ่ง

• ระบุทรัพย์สินและเหตุผลที่ขอให้เวนคืน

3. การพิจารณาของศาล

• ศาลพิจารณาหลักฐานและข้อกฎหมาย

• ตัดสินว่าทรัพย์สินควรเวนคืนแก่รัฐหรือไม่

หลักการนี้มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดได้รับประโยชน์จากการกระทำผิด และทำให้การกระทำผิดไม่คุ้มค่า ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญในการต่อสู้กับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและการคอร์รัปชัน

หลักการทำคดีเวนคืนที่ดินมีความซับซ้อนและมีหลักการเฉพาะที่แตกต่างจากการเวนคืนทรัพย์สินทั่วไป:

ประเภทของการเวนคืนที่ดิน

1. การเวนคืนเพื่อสาธารณประโยชน์

• ตามพระราชบัญญัติการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530

• เช่น การสร้างถนน สะพาน โรงเรียน โรงพยาบาล

2. การเวนคืนที่ดินที่ได้มาโดยมิชอบ

• ที่ดินที่ออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

• ที่ดินป่าสงวนที่ถูกบุกรุก

หลักการสำคัญในการเวนคืนที่ดิน

1. หลักความจำเป็นและสาธารณประโยชน์

• ต้องมีความจำเป็นอย่างแท้จริงเพื่อประโยชน์สาธารณะ

• ไม่สามารถหาที่ดินแห่งอื่นทดแทนได้อย่างสมเหตุสมผล

2. หลักการชดเชยที่เป็นธรรม

• เจ้าของที่ดินมีสิทธิได้รับค่าทดแทนที่เป็นธรรม

• การประเมินราคาต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

3. หลักขั้นตอนที่ถูกต้อง

• ต้องมีการประกาศเวนคืนตามกฎหมาย

• ให้โอกาสเจ้าของที่ดินโต้แย้งหรือยื่นอุทธรณ์

ขั้นตอนการเวนคืนที่ดิน

1. การสำรวจและศึกษาความเป็นไปได้

• สำรวจพื้นที่และประเมินความจำเป็น

• ศึกษาผลกระทบต่อเจ้าของที่ดินและชุมชน

2. การประกาศเจตนาเวนคืน

• ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

• แจ้งให้เจ้าของที่ดินทราบโดยตรง

3. การรับฟังความคิดเห็น

• เปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น

• พิจารณาข้อโต้แย้งหรือข้อเสนอแนะ

4. การออกคำสั่งเวนคืน

• หากไม่มีข้อโต้แย้งที่สมเหตุสมผล

• กำหนดค่าทดแทนและวันที่มีผลใช้บังคับ

การคุ้มครองสิทธิของเจ้าของที่ดิน

1. สิทธิในการได้รับค่าทดแทน

• ค่าทดแทนที่ดินตามราคาประเมิน

• ค่าเสียหายอื่นๆ เช่น ค่าย้ายถิ่น ค่าสูญเสียรายได้

2. สิทธิในการอุทธรณ์

• อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์การเวนคืน

• ฟ้องคดีต่อศาลปกครองหากไม่เป็นธรรม

3. สิทธิในการไม่ย้ายจนกว่าจะได้รับค่าทดแทน

• เจ้าของมีสิทธิปฏิเสธการย้ายหากยังไม่ได้รับค่าทดแทน

กรณีพิเศษ

การเวนคืนที่ดินป่าสงวน

• ใช้หลักการที่รัฐเป็นเจ้าของที่ดินดั้งเดิม

• มักไม่มีการจ่ายค่าทดแทน แต่อาจมีมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ

การเวนคืนที่ดินที่มีข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์

• ต้องแก้ไขข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์ก่อน

• หากไม่สามารถระบุเจ้าของที่แท้จริงได้ อาจฝากค่าทดแทนไว้กับศาล

การเวนคืนที่ดินจึงต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างประโยชน์สาธารณะและการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล

รายละเอียด

การฟ้องต่อศาลปกครองในกรณีถูกเลื่อน ลด ปลด ย้าย โดยไม่เป็นธรรม มีหลักการและวิธีการดังนี้:

หลักการพื้นฐาน

เงื่อนไขในการฟ้อง:

• ต้องเป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของรัฐ

• การดำเนินการของหน่วยงานต้องเป็นการใช้อำนาจทางปกครอง

• ต้องได้รับความเสียหายจากคำสั่งดังกล่าว

• คำสั่งต้องมีลักษณะไม่เป็นธรรมหรือผิดกฎหมาย

วิธีการดำเนินคดี

ขั้นตอนก่อนฟ้อง:

• ยื่นคำร้องต่อหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อทบทวนคำสั่ง

• หากไม่ได้รับการแก้ไข สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การยื่นฟ้อง:

• ยื่นคำฟ้องภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ทราบหรือควรทราบถึงคำสั่ง

• ยื่นที่ศาลปกครองชั้นต้นในเขตที่หน่วยงานตั้งอยู่

• เสียค่าธรรมเนียมศาล 2,000 บาท

เนื้อหาในคำฟ้อง

ข้อมูลที่ต้องระบุ:

• รายละเอียดคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม

• เหตุผลที่เชื่อว่าคำสั่งไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม

• หลักฐานประกอบการฟ้อง

• คำขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งหรือให้ชดใช้ค่าเสียหาย

หลักฐานที่สำคัญ

• คำสั่งเลื่อน ลด ปลด ย้าย

• หนังสือรายงานการประเมินผลการปฏิบัติงาน

• หลักฐานแสดงการปฏิบัติหน้าที่

• เอกสารแสดงความไม่เป็นธรรมในกระบวนการ

• พยานหลักฐาน

เหตุผลที่อาจนำมาใช้

• การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์

• การใช้ดุลยพินิจโดยไม่สมเหตุสมผล

• การเลือกปฏิบัติ

• การไม่ให้โอกาสในการแก้ตัวหรือชี้แจง

• การมีเจตนาไม่สุจริต

  ปรึกษาคดี ติดต่อทนายทวีศักดิ์

• กศ.บ.,นบ.,นม,Phd

• หลักสูตร กศ.ป.รุ่น 5

รายละเอียด

สล็อตออนไลน์ เครดิตโบนัสได้เงินจริง slot938รับเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์กฎหมายชั้นปริญญาโท ปริญญาเอก

- ช่วยเหลือวิธีการคิดหัวข้อ 

- ช่วยเป็นที่ปรึกษาค้นหลักกฎหมายต่างประเทศ

- ช่วยสอนวิธีการเขียนบรรยาย จนจบทุกบท

- รับทำคดีปกครอง

-รับเขียนอุทธรณ์ ฎีกา

- หมดปัญหา ไม่ต้องเสียเวลาเรียนนาน เก่ง ได้ หรือเก่งกว่า ประหยัดเงินกรณีท่านต้องรักษาสภาพเพราะทำวิจัยไม่เสร็จ
โดยสอนโดยทีมงาน นักกฎหมายระดับ ป.เอก เกรดเฉลี่ย 3.92

TEL/ID line 086 892 2417